ประวัติวัดสะพานหิน
วัดสะพานหินเดิมสันนิฐานว่า
สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยสมเด็จนารายณ์มหาราช ในปี พ.ศ.๒๒๓๑
มีพระพุทธรูปประจำอุโบสถพระนามว่า พระศรีศากยมุณีสมณโคคมทศพลญาณ
ทำด้วยทองสำฤทธิ์มีพุทธลักษณะปางมารวิชัยประทับบนบัลลังก์ วัดสะพานหินนั้นเดิมตั้งอยู่ในพื้นที่แดนกัมพูชา
ตำบลวีเวียร อำเภอโพธิสัตว์ จังหวัดสะมอดา ติดกับแม่น้ำคลองคืน
สมัยนั้นวัดสะพานหินเดิมมีชื่อเรียกว่า วัดหินงาม ( เรียกเป็นภาษาเขมรว่า วอดสะมอสะอาด ) ต่อมาจากคำบอกเล่าในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช(พระเจ้ากรุงธนบุรี
) ทรงทราบว่าเขมรได้เข้ามารุกรานไทยทางเมืองตราดและเมืองจันทบุรี
ก็ทรงขัดเคืองเขมรจึงเสด็จมาทางเมืองจันทบุรีจนมาถึงเมืองตราดและทรงได้เข้ามาประทับที่วัดสะพานหิน(เป็นวัดหินงามในสมัยนั้น)
นับแรมเดือนเพื่อจัดเตรียมทับและกำลังพลไปตีกรุงกัมพูชา โดยเคลื่อนทับไปตามทางบกตีได้เมืองพระตะบอง
เมืองโพธิสัตว์ และเมืองบริบูรณ์เข้าตามลำดับ
แต่บังไม่ถึงเมืองบันทายเพชรซึ่งเป็นราชธานีของเขมร
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเห็นว่าต้านไม่ไหว
ก็ทิ้งเมืองบันทายเพชรและนำทัพกับเข้ามาประทับที่พนมเปญ และท่านเห็นวัดเก่าชำรุดทรุดโทรมไปมากจึงกลับมาบูรณะและซ่อมแซมไห้กับมาสู่สภาพเดิมแต่ไม่สำเร็จ
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงมอยกรุงกัมพูชาแก่พระรามราชาและก็เลิกทัพกับคืนมาพระนครในเดือนพฤศจิกายน
พ.ศ.๒๓๑๔
จนสิ้นสุดสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชและวัดก็ได้ร้างมาเป็นเวลานาน
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้เข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงและแลกเปลี่ยนการปกครองระหว่าง จังหวัดจันทบุรี
จังหวัดตราด จังหวัดเสียมราฐ จังหวัดพระตะบอง จังหวัดศรีโสภณและจังหวัดเกาะกง
โดยรับสั่งให้เจ้าเมืองตราดสำรวจวัดเก่าและเข้ารายงานความเสียหายของวัดเก่าต่างๆให้ทรงทราบ
โดยมีชื่อวัดหินงามอยู่ด้วยในสมัยนั้น ซึ่งอยู่ในแดนกัมพูชา
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเก้ารับสั่งไห้เจ้าเมืองตราดเข้าทำการปรับปรุงซ่อมแซมวัดหินงามให้กับสู่สภาพเดิมและเจ้าเมืองตราดได้นิมนต์พระมหาจันไห้มาเป็นเจ้าอาวาสประจำวัดหินงาม
ซึ่งทางพระมหาจันได้เดินทางมาจากจังหวัดเกาะกงและตั้งให้พระมหาจันเป็นอุปัชฌาย์
ท่านจึงให้พระมหาจันเป็นผู้ดูแลวัดทั้งหมดและย้ายวัดสะพานหินพร้อมด้วยชาวบ้านหินงามทั้งหมดลงมาอยู่ในหมู่บ้านสะพานหินในประเทศไทยและเปลี่ยนชื่อจากวัดหินงามให้เป็นวัดสะพานหิน
ซึ่งเดิมหมู่บ้านสะพานหินนั้นจะมีสันหินทอดแนวยาวเหมือนสะพานข้ามคลองผู้สัญจรสามารถเดินข้ามไปมาได้
มีต้นกำเนิดมาจากน้ำตกและน้ำตกนั้นก็เรียกว่าน้ำตกสะพานหิน
มีหลวงนาวาเป็นผู้ดูแลรักษาความสงบของบ้านสะพานหินและบ้านแหลมตรัส(จนชามบ้านเรียกชื่อเพี้ยนมาเป็นบ้านแหลมกลัดในปัจจุบัน)
ปัจจุบันวัดสะพานหินตั้งอยู่ที่ ๙
หมู่ ๕ ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด
โดยห่างจากที่ว่าการอำเภอตราดไปทางทิตใต้ตามถนนสายตราด - คลองใหญ่ เป็นระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร
มีสันเขาทอดแนวยาวเรียกว่าเขาบรรทัดซึ่งติดกับชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา วัดสะพานหินห่างจากทะเลประมาณ
๑ กิโลเมตร มีเจ้าอาวาสสืบต่อมากันหลายองค์จนถึง พระครูอดุลยกิตติวัฒน์
(ท่านพ่อจีนกิตติโก)
เป็เจ้าอาวาสประจำวัด
ต่อมาพระครูอดุลยกิตติวัฒน์ ก็ได้มรณภาพลงด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ ๒๓
สิงหาคม ๒๕๔๔ ท่านอุปสมบทได้ ๔๖ พรรษา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ ๓๗ พรรษา อายุ ๗๖
ปี
ปัจจุบันทางวัดสะพานหินได้เก็บศพท่านไว้ไห้สาธุชนและศิษย์ยานุศิษย์ได้กราบสักการบูชากันและท่านได้เป็นพระสุปฎิปันโนรูปหนึ่งที่ปฎิบัติดีมาโดยตลอด
ในปัจจุบันนี้เจ้าอาวาสวัดสะพานหินองปัจจุบันนามว่า พระครูกิตติวัฒน์ธำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๕ สืบต่อมา